D Tracker X คือรถที่สามารถพาคุณไปได้ทุกพื้นที่สภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมืองหรือตามป่าเขา D Tracker X ก็สามารถลุยไปกับคุณได้ทุกที่
ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด
สมรรถนะอันยอดเยี่ยมมาจากระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดชนิดรูเล็กละเอียดพิเศษ 10 รู จ่ายเชื้อเพลิงเป็นละออง ทำให้การเผาไหม้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องเดินเรียบในทุกช่วงความเร็วรอบที่ใช้ในการขับขี่ปกติทั่วไป และยังให้อัตราเร่งเร็วและแรงในช่วงความเร็วระดับกลางขึ้นไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ระบบการจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดยังช่วยลดการปล่อยมลพิษ สตาร์ทติดง่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงได้อีกด้วย
ระบบกันสะเทือนชั้นยอด
มั่นใจได้กับระบบกันสะเทือนโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ ขนาด 43 มม. ปรับระดับยืดและยุบตัวได้ 16 ระดับ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ ท่อหุ้มโช้คอัพสไตล์ KX ทำจากวัสดุคุณภาพช่วยป้องกันท่อภายในจากก้อนหินและเศษใบไม้ ระบบกันสะเทือนหลังใช้โช้คแบบ Uni-Trak เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนและซับแรงกระแทกดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังใช้โช้คระบบแก๊สเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับตั้งระยะยุบและระยะยืด โดยสามารถตั้งค่าพรีโหลดได้ถึง 16 ระดับ ซึ่งสามารถลดการโคลงของรถ และเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวในทางตรงและเกาะถนนได้ดีขึ้นเมื่อเข้าโค้ง
ดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์
เบาะนั่งถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งต่ำลงเพื่อให้ผู้ขี่สามารถใช้เท้าเพื่อการทรงตัวได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น แฮนด์บังคับออกแบบใหม่ให้เป็นเส้นตรง จับถนัดขึ้น และปรับองศาท่านั่งในอยู่ในลักษณะนั่งตรง เพื่อการขับขี่ที่สบายและควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ที่พักเท้าถูกขยับให้มาอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวรถเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในทุกสภาพถนนไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือออฟโรด เบาะนั่งถูกปรับรูปทรงใหม่เพื่อให้สะดวกต่อการเปลี่ยนท่านั่งของผู้ขับขี่
โครงรถและสวิงอาร์ม
โครงรถแบบ Perimeter ทำจากเหล็กชนิด high-tensile ทำให้ตัวรถบางและน้ำหนักเบา มุมแคสเตอร์/ระยะเทรล 26.5 องศา และฐานะล้อที่มีขนาดสั้นลงทำให้ตอบสนองต่อการควบคุมดียิ่งขึ้น ขณะที่โครงรถที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวสำหรับการขี่ทางตรงได้ดียิ่งขึ้น สวิงอาร์มแบบ D-section ทำจากอะลูมิเนียม ช่วยให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้นุ่มนวลขึ้น โซ่ KX ที่ใช้ในรถแข่งถูกปรับแต่งใหม่ให้สามารถปรับความหย่อนโซ่ได้เพื่อลดการสูญเสียกำลังจากการทำงานของระบบส่งกำลัง
ลิ้นปีกผีเสื้อคู่
บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ที่ออกมาในปัจจุบันมักนิยมใช้เรือนปีกผีเสื้อขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม คาวาซากิเลือกที่จะใช้ลิ้นปีกผีเสื้อที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่กว้างกว่าแทน เพื่อเพิ่มอัตราเร่งและเพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งยังไม่ทำให้เครื่องสะดุดในทุกจังหวะการขับขี่ ช่วยให้ผู้ขี่ควบคุมรถได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีการใช้ลิ้นปีกผีเสื้อคู่ถูกออกแบบมาตามแนวคิด “สนองตอบผู้ขี่ และช่วยให้การขับขี่ราบรื่นเป็นธรรมชาติ” เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างนุ่มนวลและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ในรุ่นที่ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดโดยทั่วไปนั้น เรือนปีกผีเสื้อจะประกอบด้วยลิ้นปีกผีเสื้อ 1 ชิ้นต่อ 1 กระบอกสูบ แต่ในรุ่นที่ใช้ลิ้นปีกผีเสื้อคู่นั้นจะมีลิ้น 2 ชิ้นต่อ 1 กระบอกสูบ ลิ้นชุดแรกจะถูกควบคุมโดยผู้ขี่ ขณะที่ลิ้นชุดที่สองจะถูกปิด-เปิด ด้วยกล่อง ECU ที่ทำหน้าที่ดูดอากาศสู่ห้องเครื่องอย่างแม่นยำ รวดเร็ว และราบรื่น เมื่อการดูดอากาศเป็นไปอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้ระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มพละกำลังให้แก่เครื่องยนต์มากขึ้นด้วย