Ninja ZX-4 R 2023 STD ถูกผลิตขึ้นในปี 2023 และพร้อมปรากฎต่อสายตาของคนทั่วโลก ตามความต้องการของผู้คนส่วนมาก หลังจากที่ได้ผลิต Kawasaki ninja ZX-25R มีเสียงตอบรับค่อนข่างดีและยังมีผู้คนมากมายเรียกร้องที่จะต้องการอัปซีซีในคลาสใกล้เคียงกัน ทางบริษัท Kawasaki จึงได้ซุ่มทำการผลิต จนได้เป็น Kawasaki Ninja ZX-4R และ Ninja ZX-4RR ตามที่ผู้คนเรียกร้อง และในรุ่นนี้ ทาง Kawasaki ก็ได้เพิ่มออฟชั่นต่างๆมากมายไม่แพ้รุ่นก่อนหน้า
Ninja ZX- 4R 2023 ยังคงรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวของ Sport Bike ที่ได้มาจากรุ่นก่อนๆไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับ Ninja ZX-4RR แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นได้จากโครงกระจังหน้ารถและจอแสดงการทำงานโฉมใหม่ที่เป็น TFT Color รวมถึงตัวรถที่คล้าย Ninja ZX-25R ส่งให้ตัวรถดูปราดเปรียวกะทัดรัด แต่ยังคงไว้ซึ่งความทรงพลังที่เหนือยิ่งกว่า เครื่องยนต์คุณภาพสูงและการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกในทุกรายละเอียด ทำให้ Ninja ZX-4 R ดูสง่างามในทุกมุมมอง ส่วนสีและลวดลายที่ใช้ตกแต่งตัวรถนั้นก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดทีมรถแข่งคาวาซากิในสนามแข่ง Superbike World Championship นั่นเอง
Ninja ZX-4R มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่ ให้สามารถขับขี่ได้สนุกยิ่งขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
| Engine Management Technology |
| Chassis Management Technology |
โช้คหัวกลับขนาด 37 มม. พร้อม SFF-BP ด้านในและพรีโหลดสปริงแบบปรับได้ของซูเปอร์สปอร์ต Ninja ZX4R ให้ทั้งประสิทธิภาพในสนามแข่งและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน สมรรถนะเครื่องยนต์จึงถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยอุปกรณ์กล่อง ECU ที่ถูกอัพเกรดขึ้น ซึ่งนอกจากจะจัดการระบบเชื้อเพลิงและจุดระเบิดได้แล้ว ยังสามารถควบคุมระบบสนับสนุนต่างๆ ดังนี้
-ระบบปรับโหมดการส่งพลังงาน Full – Low
-ระบบปรับโหมดการขับขี่
Sports (ช่วยให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินไปกับการขับขี่แบบสปอร์ต)
Rider (โหมดที่สามารถปรับตัวช่วยการขับขี่อื่นๆได้อย่างอิสระ)
Road (ครอบคลุมหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การขี่ในเมืองไปจนถึงถนนในชนบทที่ห่างไกล)
Rain (ให้ความมั่นใจเมื่อขี่บนพื้นถนนเปียก)
-KAWASAKI QUICK SHIFTER ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างอิสระ
-KAWASAKI TRACTION CONTROL สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ
Ninja ZX-4R มาพร้อมมาตรวัดสี TFT แบบดิจิตอลทั้งหมดขนาด 4.3 นิ้ว เช่นเดียวกับรถรุ่นใหม่ๆของ Kawasaki ที่สามารถจัดการการตั้งค่าส่วนต่างๆของตัวรถผ่านเรือนไมล์ได้ และสามารถเชื่อมต่อบลูธูทกับสมาร์ทโฟนได้ มีโหมดวงจรสำหรับการจับเวลารอบและแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสนามแข่งในรูปแบบที่โดดเด่นและดูง่ายขึ้น
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke, In-Line Four, OHC, 16-valve, liquid-cooled | |
| ปริมาตรกระบอกสูบ |
| |
| ระบบวาร์ว | DOHC,16 vales | |
| ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก | 57.0 x 39.1mm | |
| อันตราส่วนจำกัด | 12.3:1 | |
| ระบบส่งกำลัง | 6-speed,return | |
| ระบบจุดระเบิด | Digital | |
| ระบบจ่ายน้ำมัน | DFI® w/ 34mm throttle valves (4) | |
| ระบบการสตาร์ทเครื่องยนต์ | Electric | |
| ประเภทคลัทช์ | Wet multi-disc,Manual | |
| ยางหน้า | 120/70 – 17 | |
| ยางหลัง | 160/60 – 17 | |
| ยาว x กว้าง x สูง | 78.4 in. x 30.1 in. x 43.7 in. | |
| ระยะห่างฐานล้อ | 54.3 in. | |
| ระบะห่างจากพื้น | 5.3 in. | |
| ความสูงเบาะนั่ง | 31.5 in. | |
| น้ำหนักรวม | 188 kg | |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลง | 15.142 Lites |
| เบรกหน้า | Dual 290mm discs, ABS | |
| เบรกหลัง | Single 220mm disc, ABS | |
| ระบบกันสะเทอนหน้า | 37mm inverted fork with SFF-BP internals and spring preload adjustability/4.7 in. | |
| ระบบกันสะเทือนหลัง |
| |
| คาลิปเปอร์หน้า | ||
| คาลิปเปอร์หลัง |
Peera Motosports ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการคาวาซากิอย่างเป็นทางการ
FULL DOWNLOAD
ตารางผ่อน/โปรโมชั่น
