สไตล์เร้าใจ แรงจริง
Ninja ZX- 10R 2018 ยังคงรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวที่ได้มาจากรุ่นก่อนไว้เหมือนเดิม แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เห็นได้จากโครงกระจังหน้ารถและจอแสดงการทำงานโฉมใหม่ พร้อมกับส่วนท้ายที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูปราดเปรียวกะทัดรัดขึ้น
แต่ยังคงไว้ซึ่งความทรงพลังของ ZX10R 2018 การตกแต่งคุณภาพสูงทั้งเครื่องยนต์และรูปลักษณ์ภายนอกในทุกรายละเอียด ทำให้ Ninja ZX-10R 2018
ดูสง่างามในทุกมุมมอง ส่วนสีและลวดลายที่ใช้ตกแต่งตัวรถนั้นก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดทีมรถแข่งคาวาซากิในสนามแข่ง
Superbike World Championship นั่นเอง
ขุมพลังและความเร็วขั้นสุด
Ninja ZX-10R 2018 รุ่นที่เผยโฉมในปี 2011 นั้นสร้างความฮือฮาด้วยการผสมผสานขุมพลังที่น่าตื่นใจและระบบการควบคุมทรงประสิทธิภาพ
โดยมีฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถตัดกลับมาใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงได้โดยการใช้แรงบิดสูงสุดในอัตราความเร็วรอบสูง
โดยในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติพิเศษนี้เหมือนเดิมแต่ที่เหนือกว่าคือสามารถทำงานได้ในอัตราความเร็วรอบที่ต่ำลง
ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วเพื่อออกตัวจากโค้งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ ZX10R 2018 ยังตอบสนองได้ดีขึ้น และทำความเร็วได้มากกว่า
โดยอาศัยประสิทธิภาพของเพลาข้อเหวี่ยงรุ่นใหม่ที่มีแรงเฉื่อยต่ำกว่า ส่งผลดีต่อการเร่งความเร็วและลดความเร็ว
ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งอีกด้วย ด้วยการปรับแต่งจากโรงงานเพื่อการแข่งขันผนวกกับการวิจัยและพัฒนาอันเข้มข้น
ของคาวาซากิ ทำให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Ninja ZX-10R 2018 ซึ่งผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษ ระดับ Euro 4
ระบบกันสะเทือนซูเปอร์ไบค์ระดับโลก
Ninja ZX-10R 2018 มาพร้อมตะเกียบหน้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิพัฒนาร่วมกับ Showa
ซึ่งผ่านการทดสอบสมรรถภาพมาแล้วจากการแข่งขัน Superbike World Championship โดยช่วยให้ทีมคาวาซากิ
คว้าแชมป์มาแล้วอย่างงดงาม ZX10R 2018 ได้เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจากโรงงานผลิตรถแข่งคาวาซากิถูกนำมาใช้ในการผลิตรุ่นที่ใช้ในการขับขี่
บนท้องถนนทั่วไปเช่นกัน ระบบการสั่นสะเทือนด้านหน้าได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพด้วยโช้คอัพระบบ Balance Free
ส่วนด้านหลังได้โช้คอัพ BFRC lite รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Showa
ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าและขนาดเล็กกว่าแบบ Cushion ที่เคยใช้มาก่อน

ระบบเบรก BREMBO สมรรถภาพเยี่ยม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในสนามแข่ง Ninja ZX-10R 2018 มาพร้อมระบบเบรกหน้าตัวท็อปจาก Brembo
ซึ่งคล้ายกับระบบที่ใช้ในรุ่น Ninja H2R การปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากโรงงาน Brembo
ทำให้มั่นใจได้ว่าการระบบเบรกจะตอบสนองด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ
ท้าทายทุกขีดจำกัดของการขับขี่ด้วยระบบช่วยเหลือสุดไฮเทค
จุดแข็งของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคาวาซากิคือการตั้งค่ากล่อง ECU ให้แสดงการทำงานของระบบช่วงล่างแบบเรียลไทม์
โปรแกรมอันชาญฉลาดที่ถูกติดตั้งมานี้สามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของยางรถที่เกิดจากตัวแปรต่างๆ
และจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ไปตามสภาพท้องถนนและสภาพของยางได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติม
ชุดควบคุมใหม่ล่าสุดของ ZX10R 2018 จาก Bosch โดยมี Inertial Measurement Unit (IMU)
ซึ่งถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปอีกขั้น โดยเปลี่ยนจากระบบแบบ setting-type และ reaction- type
เป็นแบบ feedback-type ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสมองกลคำนวณการควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ โดยอัตโนมัติ
ระบบกันสะบัดไฟฟ้า ÖHLINS
ระบบกันสะบัดแบบเดิมนั้นไม่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพการขับขี่หรือความเร็วได้ ในขณะที่ระบบกันสะบัดแบบใหม่จาก ÖHLINS
ที่ ZX10R 2018 มีนี้ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งทำงานแปรผันตามความเร็วและอัตราการเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว โดยในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ
ระบบกันสะบัดจะไม่เข้าไปยุ่งกับระบบบังคับรถ แต่เมื่อแตะความเร็วสูงเมื่อใด ระบบจะทำงานทันทีเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ
สายพันธุ์รถแข่งตัวจริง
เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน สมรรถนะเครื่องยนต์ ZX10R 2018 จึงถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยอุปกรณ์กล่อง ECU ที่ถูกอัพเกรดขึ้น
ซึ่งนอกจากจะจัดการระบบเชื้อเพลิงและจุดระเบิดได้แล้ว ยังสามารถควบคุมระบบสนับสนุนต่างๆ ดังนี้
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี S-KTRC ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ
– ระบบควบคุมรอบทำงานเพื่อป้องกันแรงฉุดจากเครื่องยนต์ (Kawasaki Engine Brake Control)
ที่ปรับได้ กับเกียร์ทุกระดับ
– ระบบช่วยการเข้าเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ (Kawasaki Quick Shifter) เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
*หมายเหตุ: การใช้งานระบบการช่วยเหลือเหล่านี้ ต้องติดตั้งชุด Race Kit เสียก่อน