*แนะนำ รุ่นที่สเปคใกล้เคียงกัน Z250 2019 / Z400 2019
หลังจาก Kawasaki ได้เลิกผลิต Z300 แล้วมาผลิตเป็น Z400 มีการพัฒนาอะไรบ้างอ่านเพิ่มเติมในบทความ พัฒนาการของ Z300 มาสู่ Z400 ที่ครองใจไบเกอร์ได้ไม่ยาก
รูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดันสไตล์ “Naked Bike” ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่น Z1000 และ Z800 ตัวรถที่ดูบึกบึนกำยำบ่งบอกถึงเครื่องยนต์สมรรถนะเหนือชั้น และการตกแต่งและปรับแต่งเครื่องยนต์ขั้นสุดยอดทำให้ Z300 ดูโดดเด่นกว่ารถ “Naked Bike” รุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ขุมพลังได้จากเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 296 ซีซี โครงรถที่พัฒนาจากสนามแข่งช่วยสร้างความตื่นเต้นให้แก่การขับขี่มากยิ่งขึ้น ในขณะที่เบาะนั่งผู้ขี่ที่ถูกปรับให้อยู่ในท่านั่งตรงทำให้การขับขี่ควบคุมได้ง่ายและขี่สบายขึ้น เรียกได้ว่า Z300 โดดเด่นทั้งรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะที่ทุกคนต้องหันมามอง
ดีไซน์สไตล์ Z
เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถตระกูล Z ในฐานะรถ “Supernaked” Z300 มาพร้อมดีไซน์ของตัวรถที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง บึกบึน เน้นน้ำหนักตัวรถไปที่ส่วนหน้ามากกว่าส่วนท้าย รูปลักษณ์ภายนอกให้ความรู้สึกเข้ม ดุดัน ไม่ว่าในอยู่ในขณะวิ่งหรือจอดอยู่เฉยๆ ทั้งยังโดดเด่นกว่า Naked Bike ทั่วไป
ตัวรถแข็งแกร่งพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูง
โคมไฟหน้าขนาดกะทัดรัดพร้อมด้วยกระบังมาตรวัดขนาดเล็กคือรายละเอียดการตกแต่งที่โดดเด่นในรุ่น Z300 ไฟหน้าแบบ Multi-reflector ที่ใช้ในรุ่น Z800 สะท้อนดีเอ็นเอของรถตระกูลเดียวกันอย่างชัดเจน ตัวถังเชื้อเพลิงถูกปรับให้กว้างขึ้นและเอียงไปด้านหน้า จุน้ำมันได้ถึง 17 ลิตร ทำให้สามารถเดินทางไกลเทียบเท่ารุ่นที่มีความจุเครื่องยนต์มากกว่า
เครื่องยนต์ทรงพลัง
Z 300 ABS ถูกออกแบบมาให้ขับขี่ง่าย ด้วยเครื่องยนต์แบบ 2 สูบคู่แถวเรียง พร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดจึงถูกส่งผลให้เครื่องยนต์เดินอย่างราบรื่น อัตราเร่งทำได้ดีในช่วงความเร็วรอบต่ำถึงกลาง และทำความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงความเร็วรอบสูง เครื่องยนต์ขนาด 296 ซีซี ส่งให้มีแรงบิดกำลังแรงและพละกำลังสูง กระบอกสูบทำจากอะลูมิเนียมพร้อมด้วยลูกสูบน้ำหนักเบาและชิ้นส่วนอื่นๆ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การันตีคุณภาพของรถคาวาซากิ ด้วยขุมพลังสายพันธุ์รถแข่งที่ถ่ายทอดมาจาก Ninja 300 ทำให้ Z300 แตกต่างจาก Naked Bike รุ่นอื่นอย่างสิ้นเชิง
ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด
Z300 ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ซึ่งการันตีการจ่ายเชื้อเพลิงที่สม่ำเสมอไม่ว่าอุณหภูมิหรือความดันอากาศจะเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ยังมีวาล์วควบคุมอากาศแบบคู่ที่คล้ายกับที่ใช้ในรถแข่งรุ่น Ninja มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการดูดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่อง และยังช่วยให้การเผาไหม้ทำได้ดีขึ้น ส่งให้เครื่องยนต์มีพละกำลังมากขึ้น วาล์วตัวหลักมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มม. ในขณะที่วาล์วตัวรองมีขนาด 42 มม.ซึ่งขนาดใหญ่พอที่จะช่วยดูดอากาศปริมาณมากขึ้นเข้าสู่ห้องเครื่องและช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยรุ่นที่เปิดตัวในเมืองไทยนั้นจะมีระบบ Evaporative Emission Control System มาเพื่อช่วยควบคุมไอเสียให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วย